ท้าทายความดำมืดมิดแห่งจุดที่ลึกที่สุดด้วย Chromalight
ท้าทายต่อสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เคียงข้างนักดำน้ำผู้ท้าทายจุดที่ลึกที่สุด
นับตั้งแต่ปี 2008 Oyster Perpetual Rolex Deepsea ได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์แห่งนาฬิกา Rolex สำหรับการสำรวจใต้ทะเลลึก โดยมีการติดตั้งระบบ Ringlock และกันน้ำได้ถึงระดับความลึกที่ 3,900 เมตร (12,800 ฟุต) ซึ่งเป็นความลึกที่มนุษย์ไม่สามารถอยู่รอดได้ในการดำน้ำลึก ด้วยเหตุนี้ Rolex จึงผลักดันขีดจำกัดทางเทคนิคด้วยนาฬิกาที่ทนทานเทียบเท่ากับเรือดำน้ำที ่จมดิ่งไปยังความลึกล้ำอันไม่รู้จบ ขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียวที่มาพร้อมกับขอบหน้าปัด Cerachrom พร้อมขั้นบอกเวลา 60 นาที หน้าปัดโครมาไลท์ และเสริมด้วยคุณสมบัติการกันน้ำ ทำให้นาฬิกาเรือนนี้เป็นดั่งเพื่อนร่วมทางในอุดมคติสำหรับนักดำน้ำผู้หาญกล้าท้าทายกับความลึกสุดขีด
ทนทานต่อแรงดันที่ความลึก 3,900 เมตร (12,800 ฟุต)
ทนทานต่อแรงดันมหาศาล
ในปี 2008 Rolex ได้เพิ่มความสามารถของนาฬิกาขึ้นอีกระดับโดยการนำระบบ Ringlock ร่วมติดตั้งใช้งานใน Rolex Deepsea
สถาปัตยกรรมตัวเรือนสิทธิบัตรขนาด 44 มม. ที่รังสรรค์ขึ้นจาก Oystersteel หรือทองคำ 18 กะรัตนี้ประกอบไปด้วยคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดมที่มีความหนาเล็กน้อย แหวนอัดจากสตีลไนโตรเจนอัลลอย หรือเซราม ิกสีน้ำเงินที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง และตัวเรือนด้านหลังจากไทเทเนียม RLX อุปกรณ์นี้ทำให้นาฬิกาสามารถทนทานต่อแรงดันใต้น้ำได้ที่ความลึกถึง 3,900 เมตร (12,800 ฟุต)
ตามมาตรฐานกำหนดของนาฬิกาดำน้ำ นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำของ Rolex จึงต้องได้รับการทดสอบที่ระดับความลึกมากกว่าที่แสดงบนหน้าปัดถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น Rolex Deepsea จะได้รับการทดสอบที่ความลึกระดับ 4,875 เมตร (16,000 ฟุต) ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการควบคุมคุณภาพขั้นสุดท้ายที่เป็นส่วนหนึ่งของการรับรอง Superlative Chronometer นาฬิกาแต่ละรุ่นจะต้องผ่านการทดสอบแรงดันภายในถังปรับความดันบรรยากาศสูงที่ได้รับการพัฒนาโดย Rolex โดยได้รับความร่วมมือจาก Comex (Compagnie Maritime d’Expertises)
ณ จุดที่มืดมิดที่สุดท่ามกลางห้วงลึก
เพื่อเอาชนะความมืดมิดที่ปกคลุมในห้วงลึกแห่งมหาสมุทร หน้าปัดสีดำเข้ม สี D-blue หรือสีน้ำเงินของ Rolex Deepsea จึงมาพร้อมกับหน้าปัดโครมาไลท์ หน้าปัดนี้ใช้สารเรืองแสงแบบพิเศษที่ช่วยให้การอ่านเวลาในความมืดใต้น้ำลึกเป็นไปอย่างง่ายดาย
สารนี้ได้รับการพัฒนาโดย Rolex โด ยรับประกันประสิทธิภาพระดับสูงเหนือกว่าสารเรืองแสงแบบดั้งเดิมทั้งในแง่ระยะเวลาในการเปล่งแสง ความสม่ำเสมอ หรือความเข้มของแสงสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ และได้รับการบรรจุลงในเข็มนาฬิกา เครื่องหมายบอกชั่วโมง และแคปซูลบนขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ของ Rolex Deepsea
ขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียวจะติดตั้งมาพร้อมกับขอบหน้าปัด Cerachrom พร้อมขั้นบอกเวลา 60 นาทีสีดำหรือสีน้ำเงินซึ่งจะช่วยให้นักดำน้ำสามารถควบคุมเวลาใต้น้ำได้อย่างปลอดภัย โดยผลิตขึ้นมาจากเซรามิกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติทนทานต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี นอกจากสีจะไม่ซีดจางเมื่อโดนรังสีอัลตราไวโอเลตแล้ว วัสดุเซรามิกนี้ยังมีองค์ประกอบทางเคมีที่ทำให้มีความเฉื่อยและไม่เกิดการผุกร่อนขึ้นสนิมด้วย
ความหาญกล้าอันไร้ที่สิ้นสุด
ด้วยความทนทานและความสะดวกต่อการใช้งานอันเป็นที่เลื่องชื่อนั้น Rolex Deepsea สามารถฝ่าฟันความลึกที่มนุษย์ไม่สามารถอยู่รอดได้ นาฬิกาเรือนนี้จึงเปรียบเสมือนเงาสะท้อนคุณค่าแห่งความกล้าหาญที่ไขว่คว้าหาองค์ความรู้ใหม่ๆ อย่างการสำรวจความลึกของมหาสมุทร
นี่จึงเป็นเหต ุผลที่ Rolex Deepsea Challenge รุ่นทดสอบที่ได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับ James Cameron ในการดำน้ำครั้งประวัติศาสตร์ไปยังร่องลึกมาเรียนาได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ปี 2012 นักสำรวจและผู้สร้างภาพยนตร์ได้ดำดิ่งลงสู่ห้วงสมุทรที่ความลึก 10,908 เมตร (35,787 ฟุต) ใต้พื้นผิวของมหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมกับนาฬิกาที่ยึดติดกับแขนที่เชื่อมกับเรือดำน้ำของเขา