Air‑King

เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวและอ่านค่าได้อย่างชัดเจน

Air-King อันสง่า

Air-King เชิดชูผู้บุกเบิกด้านการบินและผสานคุณสมบัติที่โดดเด่นของนาฬิกาสำหรับมืออาชีพของเรา มาพร้อมสเกลนาทีที่จดจำได้ในทันทีและช่วยให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างรวดเร็ว

หน้าปัดนาฬิกา Air-King

หน้าปัดมาพร้อมเครื่องหมายบอกชั่วโมงเลข 3, 6 และ 9 และสเกลนาทีที่โดดเด่น
ดั้งเดิมและใช้งานได้ดี

Air-King โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของหน้าปัดที่ทั้งสง่างามและใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยการผสานเครื่องหมายบอกชั่วโมงเลข 3, 6 และ 9 ขนาดใหญ่เข้ากับสเกลนาทีที่โดดเด่น ซึ่งพบได้ทั่วไปในนาฬิกาของแวดวงการบิน การแสดงเวลาของสเกลนาทีนี้ช่วยให้อ่านค่าเวลาขณะนำทางได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนสูงสุด

หน้าปัดของ Air-King จำเป็นต้องใช้กระบวนการผลิตที่แตกต่างกันหลายขั้นตอนในการผลิต พื้นผิวเคลือบเงาสีดำมาพร้อมด้วยเครื่องหมายบอกชั่วโมงทรงสามเหลี่ยมและเครื่องหมายบอกเวลาแบบตัวเลขซึ่งทำจากทองคำขาว 18 กะรัต รวมถึงสเกลนาทีสีขาวที่พิมพ์ด้วยระบบแพด

คุณสมบัติที่โดดเด่นอื่นๆ ได้แก่ ชื่อของ Air-King ซึ่งเขียนด้วยตัวอักษรเดียวกับที่ปรากฏบนรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1958 เช่นเดียวกับเข็มวินาทีและชื่อของ Rolex ซึ่งทั้งคู่เป็นสีเขียวที่เป็นเฉดสีสัญลักษณ์ของแบรนด์

หน้าปัด

หน้าปัดโครมาไลท์
จากความมืดมิดสู่ความสว่างไสว

หน้าปัดโครมาไลท์บน Air-King อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Rolex นั้นได้มอบความชัดเจนในการอ่าค่าเวลาขั้นสูงสุด ไม่ว่าสภาพแสงรอบข้างนั้นจะเป็นแบบใดก็ตาม สารเรืองแสงที่ได้รับการเติมแต่งลงบนเครื่องหมายบอกชั่วโมงแบบตัวเลข เครื่องหมายบอกชั่วโมงทรงสามเหลี่ยมและเข็มนาฬิกานั้นจะเปล่งแสงสีขาวสว่างในแสงธรรมชาติตอนกลางวัน และเรืองแสงสีฟ้าเข้มเมื่ออยู่ในความมืด ประสิทธิภาพของสารเรืองแสงนี้ได้ผลักดันมาตรฐานการผลิตนาฬิกาให้หลุดออกจากขนบการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง

วัสดุนี้ผลิตขึ้นมาจากการเผาผงอณูละเอียดที่ประกอบไปด้วยเหล็กออกไซด์หลายประเภทที่ความร้อนสูงและนำมาผสมเข้ากับเรซิ่นเหลว จึงได้ออกมาเป็นผลลัพธ์แห่งกระบวนการผลิตอันซับซ้อน จากนั้นจึงทาด้วยมืออย่างบรรจง การปฏิบัติการในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้ความละเอียดขั้นสูงเพื่อบรรจุปริมาณของสารเรืองแสงให้สมบูรณ์แบบและตรงตามมาตรฐานความเป็นเลิศของ Rolex

ตัวเรือน Oyster
ผู้ปกปักษ์คุณสมบัติแห่งการกันน้ำ

Air-King มาพร้อมกับตัวเรือน Oyster ขนาด 40 มม. ที่รับประกันการกันน้ำที่ความลึก 100 เมตร (330 ฟุต) โดยยืนยันประสิทธิภาพด้วยการทดสอบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรับรอง Superlative Chronometer

ตัวเรือน Oyster เป็นสัญลักษณ์แห่งความทนทานและการกันน้ำ และยังมีความโดดเด่นจากสัดส่วนของตัวเรือน พร้อมมอบความสมดุลดั่งอุดมคติระหว่างความงดงามและฟังก์ชันการใช้งานจริง

ด้านหลังตัวเรือนนาฬิกาผ่านการเซาะร่องเพื่อยึดตัวเรือนไว้ด้วยเครื่องมือพิเศษ ซึ่งมีเพียงช่างทำนาฬิกาของ Rolex เท่านั้นที่สามารถเปิดตัวเรือนด้านหลังเพื่อดูกลไลภายในได้ นอกจากนี้ คริสตัลแซฟไฟร์ที่ป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างแท้จริงได้มาพร้อมการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนที่ช่วยปกป้องหน้าปัด

ขอบป้องกันเม็ดมะยม

ขอบป้องกันเม็ดมะยม
ส่วนป้องกันด้านข้าง

ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา Air-King ได้มาพร้อมขอบป้องกันเม็ดมะยมที่ปกป้องเม็ดมะยมไขลาน Twinlock จากการกระแทก คุณลักษณะนี้เป็นลักษณะเฉพาะของนาฬิกาสำหรับมืออาชีพส่วนใหญ่ของเราที่ประกอบด้วยส่วนป้องกันด้านข้างสองด้านที่ออกแบบมาให้เป็นเนื้อเดียวกับตัวเรือนตรงกลาง และนอกจากจะทำให้ Air-King มีความทนทานแล้ว มันยังทำให้นาฬิกามีความสง่างามมากขึ้นด้วย

เม็ดมะยม Twinlock
ระบบกันน้ำสองชั้น

เม็ดมะยมไขลาน Twinlock ของเรามีคุณสมบัติกันน้ำได้ถึงสองส่วน มันประกอบขึ้นมาจากชิ้นส่วนราว 10 ชิ้น และทำจากวัสดุที่ผ่านการคัดสรรอย่างเข้มงวดโดยประเมินจากคุณสมบัติที่แท้จริง อาทิ สารโพลิเมอร์ที่ใช้ในการผลิตซีลกันน้ำ และ Oystersteel

เม็ดมะยมไขลาน Twinlock จะถูกยึดด้วยสกรูเข้ากับด้านข้างตัวเรือนตรงกลางอย่างแน่นหนา ซึ่งเม็ดมะยมไขลานนี้คือชิ้นส่วนที่สำคัญที่ทำให้ระบบการกันน้ำของ Air-King ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ระบบ Twinlock จะได้รับการระบุโดยใช้จุดหนึ่งจุด หรือสองจุด หรือเส้นขีดบนหน้าเม็ดมะยมไขลาน ขึ้นอยู่กับวัสดุแต่ละประเภท โดยเม็ดมะยม Twinlock ของ Air-King นั้นทำขึ้นจาก Oystersteel และจะเป็นเส้นขีดใต้สัญลักษณ์ Rolex

เม็ดมะยม Twinlock

Oystersteel
อัลลอยสุดพิเศษ

Air-King มีจำหน่ายเฉพาะในวัสดุ Oystersteel เท่านั้น อัลลอยนี้มีเพียงใน Rolex เท่านั้นและอยู่ในตระกูลสตีล 904L ซึ่งเป็นอัลลอยที่มีการนำมาใช้งานอย่างกว้างขวางในเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น อุตสาหกรรมการบินและอุตสาหกรรมเคมี

ในปี 1985 Rolex ได้กลายเป็นผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์แรกที่ใช้สตีล 904L แบบก้อนในการผลิตตัวเรือน

Oystersteel ของเรานั้นมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนอย่างยิ่งยวด และยังมอบความเงางามแม้นาฬิกาจะถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง

สายนาฬิกา Oyster และชุดตัวล็อก Oysterlock
สอดประสานอย่างลงตัวระหว่างรูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งาน

สายนาฬิกา Oyster
Air-King มาพร้อมกับสายนาฬิกา Oyster ที่มีข้อต่อแข็งจาก Oystersteel โดยได้รับการพัฒนาในช่วงปลายทศวรรษ 1930 สายนาฬิกา Oyster ของเราเป็นสายนาฬิกาที่ผสานความสบายเข้ากับความทนทานด้วยข้อต่อสามชิ้นที่โค้งเล็กน้อยและมีความกว้าง
ชุดตัวล็อก Oysterlock
เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของชุดตัวล็อก Oysterlock นั้นผลิตมาเพื่อนาฬิกาสำหรับมืออาชีพของเราเท่านั้น ระบบขยายสายนี้มาพร้อมกับกลไกตัวล็อคแบบบานพับและระบบตัวล็อคนิรภัยที่ป้องกันการเปิดออกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งยังรับรองการรัดรอบข้อมืออย่างปลอดภัย และใช้งานสะดวกสบาย
สายนาฬิกา Oyster
สายนาฬิกา Oyster ของ Air-King ยังมาพร้อมกับระบบขยายสาย Easylink ของเรา ระบบดังกล่าวช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถปรับความยาวของสายนาฬิกาได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับได้ถึงประมาณ 5 มม. ด้วยข้อสายนาฬิกาแบบพับได้เพื่อความสบายในการใช้งาน
คาลิเบอร์ 3230

คาลิเบอร์ 3230
กลไกการทำงานสมรรถนะสูง

Oyster Perpetual Air-King ได้รับการรับรอง Superlative Chronometer โดยขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 3230 ตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งเป็นกลไกการทำงานของระบบขึ้นลานอัตโนมัติด้วยโรเตอร์ Perpetual ที่พัฒนาและผลิตโดย Rolex แต่เพียงผู้เดียว

คาลิเบอร์ 3230 ของเราเป็นส่วนประกอบที่ทำงานร่วมกับแฮร์สปริง Parachrom สีฟ้า แฮร์สปริงนี้ทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็กแรงสูง และยังมีความเสถียรเป็นอย่างสูงเมื่อต้องเผชิญสภาวะความผันผวนของอุณหภูมิ กลไกการทำงานนี้ยังมาพร้อมชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy สิทธิบัตร อันเป็นกลไกที่ทำจากอัลลอยนิกเกิล-ฟอสฟอรัสซึ่งไม่ไวต่อการรบกวนของแม่เหล็กแรงสูงและมอบความน่าเชื่อถือในระดับที่ดีเยี่ยม

ออสซิลเลเตอร์ของกลไกการทำงานนี้มีจักรกรอกขนาดใหญ่ที่มีความเฉื่อยผันแปร และสามารถปรับตั้งความเที่ยงตรงได้อย่างแม่นยำด้วยน็อต Microstella ทองคำ และยึดเข้ากับตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex ประสิทธิภาพสูง และนับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา ลูกเหวี่ยงยังติดตั้งมาพร้อมกับตลับลูกปืนเม็ดกลมที่ได้รับการปรับเพิ่มสมรรถนะด้วย

คาลิเบอร์ 3230 ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านเทคโนโลยีชั้นสูงของเราได้มาพร้อมสิทธิบัตรหลายฉบับ มันรับประกันประสิทธิภาพขั้นสูงโดยเฉพาะในด้านความเที่ยงตรงแบบโครโนแมตริก (อัตราผันผวนที่ -2/+2 วินาทีต่อวัน) เช่นเดียวกับการเดินโดยไม่ต้องไขลาน (ประมาณ 70 ชั่วโมง) ความต้านทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก ความสะดวกสบายในการใช้งานและความน่าเชื่อถือ