ก้าวข้ามขีดจำกัด

ปี 2013 – ปี 2022

ก้าวข้ามขีดจำกัด

2013

ขอบหน้าปัด Cerachrom สองสี

ในปี 2013 Rolex เปิดตัวนาฬิการุ่น GMT-Master II ที่มาพร้อมกับขอบหน้าปัด Cerachrom สองสีจากเซรามิกสีน้ำเงินและสีดำ หนึ่งปีต่อมา นาฬิการุ่นนี้ได้ถูกเปิดตัวอีกครั้งด้วยขอบหน้าปัด Cerachrom สองสีจากเซรามิกสีแดงและสีน้ำเงิน การผสมผสานสีทั้งสองบนส่วนประกอบเซรามิกเพียงชิ้นเดียวนี้นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลกที่ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการผลิตนาฬิกา

ขอบตัวเรือน Cerachrom สองสี
คาลิเบอร์ 2236

2014

คาลิเบอร์ 2236 พร้อมแฮร์สปริง Syloxi

Rolex ได้เผยโฉมคาลิเบอร์รุ่นใหม่ 2236 ที่มาพร้อมแฮร์สปริง Syloxi จากซิลิคอนที่ผ่านการพัฒนาเป็นการภายใน เพื่อให้นาฬิกามีสมรรถนะความเที่ยงตรงระดับโครโนแมตริกสูงสุด กลไกการทำงานของระบบขึ้นลานอัตโนมัตินี้ผลิตขึ้นทั้งหมดโดย Rolex และนับว่าเป็นการเริ่มต้นของคาลิเบอร์รุ่นใหม่

งานแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติ

2014

งานแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติ

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดรวมถึงการพัฒนานวัตกรรมอันเป็นนิรันดร์ Rolex จึงเชิดชูสถาปัตยกรรมให้เป็นส่วนหนึ่งในความเป็นสากล Rolex สนับสนุนงานแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติของ La Biennale di Venezia ในฐานะพันธมิตรระดับเอ็กซ์คลูซีฟและเรือนเวลาแห่งเวทีระดับโลกในการแสดงความสร้างสรรค์ทางสถาปัตยกรรม

คาลิเบอร์ 3255

2015

คาลิเบอร์ 3255

Rolex เปิดตัวคาลิเบอร์ 3255 หรือกลไกการทำงานรุ่นใหม่สำหรับ Day-Date 40 ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ทางด้านประสิทธิภาพในแง่ของความเที่ยงตรง พลังงานสำรอง ความน่าเชื่อถือ การทนทานต่อแรงกระแทก และสนามแม่เหล็ก รวมถึงความสะดวกในการไขลานและการปรับเวลา พลังงานสำรองเพิ่มขึ้นสามวัน (ประมาณ 70 ชั่วโมง) โดยเพิ่มขึ้นจาก 24 ชั่วโมง (หรือ 50 เปอร์เซ็นต์) เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา

สาย Oysterflex

2015

สาย Oysterflex

Rolex นำเสนอสาย Oysterflex อันเป็นนวัตกรรมการผลิตสายนาฬิกาแบบใหม่ที่พัฒนาและจดสิทธิบัตรโดย Rolex โดยเปิดตัวครั้งแรกในเวอร์ชันสีดำและ Everose gold 18 กะรัต สำหรับนาฬิกาเพื่อการเดินเรืออย่าง Yacht-Master เทคโนโลยีของสายนาฬิกานี้ผสมผสานความทนทานและความน่าเชื่อถือของสายนาฬิกาโลหะเข้ากับความยืดหยุ่น สวมใส่สบาย และความงามของสายอีลาสโตเมอร์ได้อย่างน่าทึ่ง และมาพร้อมตัวล็อกที่ทำมาจากอีลาสโตเมอร์สีดำสมรรถนะสูง

การรับรอง Superlative Chronometer

2015

การรับรอง Superlative Chronometer

นาฬิกา Rolex ทุกรุ่นได้รับการรับรอง Superlative Chronometer ตามนิยามใหม่ที่ Rolex กำหนดขึ้นในปี 2015 งานออกแบบเอ็กซ์คลูซีฟนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่านาฬิกาได้ผ่านการทดสอบต่างๆ ตามเกณฑ์ที่ Rolex ได้กำหนดขึ้น สถานะ Superlative Chronometer นั้นมาควบคู่กับการรับประกันระดับสากลเป็นเวลาห้าปี

Academy of Motion Picture Arts and Sciences

2017

Academy of Motion Picture Arts and Sciences

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา Rolex เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความเป็นเอกลักษณ์ และปรากฏในภาพยนตร์ในตำนานอีกหลายเรื่อง Rolex ได้ดำรงฐานะนาฬิกาสุดพิเศษแห่ง Academy of Motion Picture Arts and Sciences ในปี 2017 ซึ่งได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Academy Awards ณ เมืองลอสแอนเจลิสตั้งแต่ปี 1929 นอกจากนี้ Rolex ยังร่วมเป็นผู้สนับสนุนการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ Academy Museum of Motion Pictures เพื่อรักษาเกียรติประวัติอันยาวนานของโลกแห่งภาพยนตร์ด้วย

2019

โครงการ Perpetual Planet Initiative

หลายปีที่ผ่านมา Rolex ได้ให้การสนับสนุนองค์กรและบุคคลที่ทำงานเพื่ออนาคตของโลก

ในปี 2019 Rolex ได้จัดให้กิจกรรมเหล่านี้อยู่ภายใต้โครงการ Perpetual Planet Initiative พวกเขาเหล่านี้มีตั้งแต่นักสำรวจ นักวิทยาศาสตร์ ผู้ประกอบการ ไปจนถึงพลเมืองธรรมดา ที่ต่างมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ดีกว่าเพื่อโลก พวกเขาลงมือปฏิบัติงานจริงเพื่อค้นหาคำตอบของความท้าทายในปัจจุบัน พวกเขาสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ และมอบอนาคตให้กับโลกของพวกเรา และ Rolex จะยืนเคียงข้างพวกเขาอยู่เสมอผ่านโครงการ Perpetual Planet Initiative

Perpetual Planet
สีฟ้า
โรลังด์-การ์รอส

2019

พันธมิตรระดับพรีเมียมและผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของโรลังด์-การ์รอส

ปี 2019 Rolex ได้ดำรงฐานะเป็นพันธมิตรระดับพรีเมียมและผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของโรลังด์-การ์รอส ซึ่งเป็นการแข่งขันรายการเดียวของ Grand Slam® ที่จัดขึ้นบนสนามดิน แบรนด์ยังคงกระชับความสัมพันธ์กับวงการเทนนิส ซึ่งก่อร่างความร่วมมือมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1978 ในการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดัน Rolex ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมและการแข่งขันสำคัญของกีฬาเทนนิสมาอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ Rolex ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับการแข่งขัน Grand Slam® ทั้งสี่รายการ

ผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของ SailGP

2019

ผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของ SailGP

สนาม SailGP ได้มอบนิยามใหม่ให้โลกแห่งการแข่งขันเรือใบด้วยเรือคาตามารันล้ำสมัยที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม เรือยอชต์ที่พร้อมทะยานเหล่านี้ได้ประกอบกันเป็นกองเรือแข่งที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ในปี 2019 Rolex ได้กลายเป็นพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้งของรายการนี้ซึ่งได้ดึงดูดผู้มีความสามารถด้านการแล่นเรือยอดฝีมือมากมาย พร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานที่มีต่อวงการเรือยอชต์กว่า 70 ปี

คาลิเบอร์ 2232 และ 3230

2020

กลไกการทำงาน 2232 และ 3230 ใหม่

คาลิเบอร์ 2232 และ 3230 คือกลไกการทำงานของระบบขึ้นลานอัตโนมัติที่ได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นโดย Rolex เพียงผู้เดียว ด้วยเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงของกลไกการทำงานจึงนำไปสู่การจดสิทธิบัตรหลายฉบับ คาลิเบอร์ 2232 โดดเด่นด้วยแฮร์สปริง Syloxi ที่ผลิตจากซิลิคอน คาลิเบอร์ 3230 ประกอบด้วยแฮร์สปริง Parachrom สีฟ้าได้รับการพัฒนาและผลิตโดย Rolex ทำด้วยอัลลอยพิเศษจากนิโอเบียมและเซอร์โคเนียม คาลิเบอร์ 2232 มีจักรเหล็กทำจากนิกเกิล-ฟอสฟอรัสต้านสนามแม่เหล็ก คาลิเบอร์ 3230 ประกอบด้วยชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy สิทธิบัตร และทำจากอัลลอยชนิดเดียวกัน

พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ

2021

พันธมิตรอย่างเป็นทางการและผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ

ในปี 2021 Rolex ได้ต่ออายุการเป็นพันธมิตรกับพีจีเอ ออฟ อเมริกา โดยเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการและผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการขององค์กรและการแข่งขันพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพอันโด่งดัง โดยทางแบรนด์ได้มีความสัมพันธ์กับการแข่งขันรายการหลักชายและหญิงทั้งหมด และยังเป็นพันธมิตรระดับโลกของการแข่งขันประเภททีมชั้นนำอย่างเดอะ ไรเดอร์ คัพด้วย

การแข่งขันพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพเป็นรายการหลักเพียงรายการเดียวที่ผู้เข้าแข่งขันล้วนเป็นนักกีฬามืออาชีพ โดยจะเล่นในสนามที่มีการแข่งขันที่เข้มข้นที่สุดในสหรัฐอเมริกา และพร้อมต้อนรับนักกอล์ฟยอดฝีมือ 100 อันดับแรกของโลก

Day-Date 40 แพลทินัม

2022

Day‑Date ในเวอร์ชันแพลทินัม พร้อมขอบตัวเรือนแบบเซาะร่อง

เป็นครั้งแรกที่ Rolex ได้เปิดตัว Day-Date 40 ที่รังสรรค์จากแพลทินัม 950 ซึ่งมีขอบตัวเรือนแบบเซาะร่องที่ประกอบขึ้นด้วยโลหะมีค่าแบบเดียวกัน และต้องใช้เวลาหลายปีในการวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการกิโยเช่ที่ใช้ในการสรรสร้างร่องด้วย "โลหะที่ดีที่สุด" ความสำเร็จทางเทคนิคนี้ถือเป็นก้าวใหม่ในการพัฒนาความรู้ความชำนาญของ Rolex และขอบตัวเรือนแบบเซาะร่องในเวอร์ชันแพลทินัมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งทางมรดกที่มีเอกลักษณ์ของแบรนด์

Deepsea Challenge
Deepsea Challenge

2022

เปิดตัว Deepsea Challenge

Oyster Perpetual Deepsea Challenge ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิการุ่นทดลองที่พัฒนาขึ้นสำหรับ James Cameron ในการดำดิ่งสู่ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนาครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ปี 2012 โดยเกิดขึ้นจากการสั่งสมประสบการณ์อันยาวนานและความรู้ความชำนาญของ Rolex ในแวดวงนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำอย่างแยบยล รังสรรค์จากไทเทเนียม RLX พร้อมวาล์วคายฮีเลียมและระบบ Ringlock ทำให้เหมาะสำหรับการดำน้ำในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำแบบน่านน้ำแบบเปิด การดำน้ำแบบ ใต้น้ำ หรือในห้องปรับความดันบรรยากาศสูง พร้อมประสิทธิภาพการกันน้ำลึกถึง 11,000 เมตร (36,090 ฟุต) ซึ่งนับว่านาฬิการุ่นใหม่นี้เป็นก้าวสำคัญในการสำรวจทะเลลึก